วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557

ประวัติหมู่บ้าน



ประวัติหมู่บ้านใหม่ไทยเจริญ



     

          บ้านใหม่ไทยเจริญ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งขึ้นใหม่โดยมีชุมชนจำนวน ๔ ครอบครัว จากอำเภอสำโรงทาบ จังหวัดสุรินทร์ มาตั้งรกรากถิ่นฐานที่บริเวณข้างหนองรูง โดยเป็นหมู่บ้านฝากของบ้านตรวจ หมู่ที่ ๑ เมื่อแยกออกมาตั้งหมู่บ้านใหม่ 
        จึงตั้งชื่อให้เป็นนามมงคลใหม่ ว่า “ บ้านใหม่ไทยเจริญ” ประวัติและการปกครองหมู่บ้าน เมื่อประมาณปี พ. ศ ๒๔๙๙ ได้มีกลุ่มบุคคลจำนวน ๔ ครอบครัว อพยพย้ายมาอยู่ที่บริเวณปัจจุบันเลยทำให้เกิดหมู่บ้านนี้เกิดขึ้น และมีการพัฒนาความเป็นอยูในหมู่บ้านให้มีความเจริญในการอยู่ศัย มีการปกครองโดยมีการเลือกผุ้ใหญ่บ้านขึ้นมาจะได้ปกครองหมู่บ้านโดยมีผู้นำ ผู้ใหญ่บ้าน ได้ปกครองและพัฒนาหมู่บ้าน ดังนี้ ๑. นายสิงห์ทอง สุขดี ๒. นายประดิษฐ์ ชินแก้ว (ผู้ใหญ่บ้านปัจจุบัน) กลุ่มชาติพันธุ์-ภาษาพูด-ภาษาเขียน ของคนในหมู่บ้าน (อดีต) ภาษาส่วย (กวย) ภาษาเขียน ภาษาไทย (ปัจจุบัน) ภาษาไทยอีสาน(ลาว) ภาษาเขียน ภาษาไทย ประเพณี-พิธีกรรมท้องถิ่น ของชุมชนในหมู่บ้าน ประเพณีและวัฒนธรรมส่วนใหญ่มีลักษณะคล้ายคลึงกันกับชุมชนในตำบลตรวจ โดยมีการประยุกต์ตามยุคสมัยตลอดฤดูกาลของแต่ละปี – พิธีกรรมของหมู่บ้านคือ มีการนับถือผีสาง ภูตผีปีศาจ เชื่อในลัทธิตามความนิยมของ คนแก่ เช่นพิธีกรรมแกลมอ ไหว้ปู่เจ้า บวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดินฟ้าอากาศ และสภาพแวดล้อม – ประเพณีหรือวัฒนธรรมที่สำคัญคือ ประเพณีการทำบุญร่วมมิตร ประเพณีบุญสงกรานต์ ประเพณีแกลมอประเพณีบวชนาค ประเพณีบุญข้าวสารท ประเพณีบุญบั้งไฟ ประเพณีบุญ เข้า




พรรษา-ออกพรรษา ประเพณีขึ้นบ้านใหม่ บุญข้าวจี่ ประเพณีการแต่งงาน เป็นต้น โบราณสถาน/โบราณวัตถุ/สถานที่สำคัญ/แหล่งท่องเที่ยวในหมู่บ้าน – วัดป่าเจริญธรรมาราม – หนองน้ำทุ่งรูงขั้นกลางสองหมู่บ้าน อาชีพของคนในหมู่บ้าน (อาชีพหลัก) ทำนา (อาชีพรอง/อาชีพกลุ่มย่อย) ทำสวนผักและรับจ้างทั่วไป (หนึ่งผลิตภัณฑ์ของหมู่บ้าน) พรมเช็ดเท้าและปลาจ่อมหรือปลาร้า (อาชีพที่เด่นและมีความสำคัญ) ปลาจ่อมและปลาร้า ทรัพยากรธรรมชาติในหมู่บ้านที่สำคัญ – ลำห้วยทับทัน 

 


        บุคคลสำคัญ/ผู้รู้ด้านต่างๆในหมู่บ้าน ๑ หมอสมุนไพร ได้แก่ นายแก้ว ดัชถุยาวัตร ๒ พิธีกรรมและศาสนาพิธี คือ นายประสิทธิ ไตรพรม ๓ ด้านศิลปหัตถกรรมจักสาน คือ นายน้อย จันทา ๔ หมอตำแย คือ นางสมจิต รักษ์เขตกลาง ๕ รำผีฟ้า คือ นางบัวไข คำหาญ ชื่อคณะดนตรี-การแสดง และการละเล่นพื้นบ้านในหมู่บ้าน – ประเพณีการละเล่นพื้นบ้าน ชื่อหน่วยงาน องค์กร สถานที่สำคัญ ๑. วัดป่าเจริญธรรมาราม

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2557

เศรษฐกิจ

เศรษฐกิจพอเพียง (การเลี้ยงจิ้งหรีด)


มาจาก : https://www.google.co.th/search?

         ถิ่นฐานบ้านเกิดมีการพัฒนาความเป็นอยู่ในชุมชนโดยการสร้างรายได้ในชุมชน 
การสร้างงานหรือวว่าหางานให้ชาวบ้านในชุมชนทำ ไม่อยากให้ชาวบ้านชุมชนว่าง
      การสร้างรายได้โดยการเลี้ยงจิ้งหรีดขาย เพราะการเลี้ยงจิ้งหรีด ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ง่าย อยู่ที่ต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างสม่ำเสมอ 

        ชนิดของจิ้งหรีด
จิ้งหรีดที่พบในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย มี ชนิด
1. จิ้งหรีดดำ ลำตัวกล้างประมาณ 0.70 ซม. ยาวประมาณ 3 ซม. ตามะรรมชาติมี 3สี คือ สีดำ สีทอง สีอำพัน โดยลักษณะที่เด่นชัดคือ จะมีจุสีเหลืองที่โคนปีก จุด
2. จิ้งหรีดทองแดง ลำตัวกว้างประมาณ 0.60 ซม. ยาวประมาณ ซม. มีลำตัวสีน้ำตาล เพศผู้มีสีเข้มกว่าเพศเมีย ส่วนหัวเหนือขอบตารวมต้านบนแต่ละด้านมีแถบสีเหลือ มองดูคล้ายหมวกแก๊ป มีความว่องไวมาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเรียกจิ้งหรีดนี้เป็นภาษาถิ่นว่า จินาย อิเจ๊ก จิ้งหรีดม้า เป็นต้น
3. จิ้งหรีดเล็ก มี ขนาดเล็กที่สุด สีน้ำตาล บางท้องที่เรียกว่า จิลอ จิ้งหรีดผี หรือ แอ้ด เป็นต้น ลักษณะคล้ายจิ้งหรีดพันธุ์ทอดแดง แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยขนาดประมาณหนี่งในสามของจิ้งหรีดพันธุ์ทองแดง
4. จิ้งโก่ง เป็นจิ้งหรีดขนาดใหญ่ สีน้ำตาล ลำตัวกว้างประมาณ ซม. ยาวประมาณ3.50 ซม. ชอบอยู่ในรูลึก โดยจะขุดดินสร้างรังอาศัยได้เอง และพฤติกรรมชอบอพยพย้ายที่อยู่เสมอ มีชื่อเรกแตกต่างกันไป เช่น จิโปม จิ้งกุ่ง เป็นต้น

5. จิ้งหรีดทองแดงลาย มี ชนิด คือ ชนิดที่มีปีกครี่งตัว และชนอดที่มีปีกยาวเหมือนจิ้งหรีดทั่วไป ตัวเต็มวัยสีน้ำตาลเข้ม ลำตัวกว้างประมาณ 0.53 ซม. ยาวประมาณ 2.05 ซม. ตัวเต็มวัยเหมือนพันธุ์ทองแดงแต่เล็กกว่าประมาณครึ่งหนึ่ง


              จิ้งหรีด เป็นแมลงที่ คนไทยใช้บริโภคกันมานาน และแพร่หลาย เพราะมีรสชาติอร่อย สารอาหารสูง ในการจำหน่ายก็มีหลายแบบ เช่น ทอดขาย ขายส่ง ขายปลีก แปรรูป อัดกระป๋อง เป็นต้น 
ในวันนี้จะแนะนำการเลี้ยงจิ้งหรีด ตามแนวบ้านฟาร์มลุงบิว คือทำง่ายๆ ต้นทุนต่ำ ใช้วัสดุ ราคาไม่แพง สะดวก ทำความสะอาดง่าย หารายได้เข้าชุมชนและครอบครัวเป็นการเพิ่มรายได้ที่ดีมาก เพราะช่วงฤดูแล้งไม่มีน้ำปลูกข้าวด้วยลงทุนครั้งแรกประมาณ 5,000 บาท ทำบ่อปูนซีเมต์และเพิงหลังคามุงจาก เพิ่มรายได้ให้ครอบครัวเดือนละ 4,000 บาท จิ้งหรีด เป็นแมลงที่พบตามธรรมชาติ ในท้องทุ่งนาหรือตาม
สนามหญ้า วงจรชีวิตของจิ้งหรีดมีอายุ 3 เดือน แบ่งระยะการเจริญเติบโตเป็น 3 ระยะ คือ ระยะไข่ ระยะตัวอ่อน และระยะตัวเต็มวัย ปัจจุบันมีคนหันมาให้ความสนใจจิ้งหรีดมากขึ้น ด้วยการนำมาประกอบเป็นอาหารจานโปรด ให้สารอาหารที่มีโปรตีนสูงปลอดสารพิษ และสามารถรักษาโรคขาดสารอาหารได้อีกด้วย สำหรับอาชีพเลี้ยงจิ้งหรีดกลายเป็นอาชีพหนึ่งของราษฎรที่นี่ สร้างรายได้ให้ผู้เลี้ยง จนมีผู้หันมายึดอาชีพเลี้ยงจิ้งหรีดกันมากขึ้น จนเป็นการเพิ่มรายได้ของครอบครัวในชุมชน

                                                                                            
                                                                                  ประโยชน์การเลี้ยงจิ้งหรีด                                                           
1. เป็นทางเลือกหนึ่งในการประกอบอาชีพ
2. เพื่อส่งเสริมให้มีอาหารปลดสารพิษไว้บริโภค
3. เป็นกิจกรรมยามว่าง ส่งเสริมสุขาพจิต โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ
4. เป็นอาหารสัตว์ เช่น ไก่ กบ เป็น ปลา และอื่น ๆ
5. ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารกระป๋อง (จิ้งหรีดกระป๋อง)
6. เพื่อการกีฬา เช่น ใช้เป็นเหยื่อตกปลา


    จึงเป็นการทำให้ชุมชนมีความสามัคคีกันมาขึ้น มีการพูดคุยกันบ้าง เลยทำให้ทุกคนเกิดความรักไข้กันมากขึ้นเลยทำให้ ผู้ใหญบ้านมีแนวความคิดในการสร้างแหล่งเพาะจิ้งหรีดให้กลับชุมชนขึ้นมาใหม่
ซึ่งตอนแรกได้ลงทุนเลี้ยงจิ้งหรีดเพียง 5,000 บาท มีบ่อปูนประมาณ 10 บ่อ สามารถจำหน่ายได้เดือนละประมาณ 3,000-4,000 บาท โดยนำตาข่ายไนล่อนสีเขียวคลุมปากบ่อหนา มีถาดอาหารน้ำ ดินร่วนปนทราย และเศษหญ้าแห้ง อาหารไก่ พร้อมพืช ผักตามธรรมชาติ การทำโรงเรือน ควรรักษาระดับความชื้นภายในบ่อ แล้ววางบ่อบนพื้นปูนฉาบปูนที่ขอบบ่อด้านล่าง เพื่อป้องกันศัตรูและมดที่จะเข้าไปทำลายจิ้งหรีด โดยติดแผ่นพลาสติกใสและเทปกาวที่ขอบบ่อด้านบน เพื่อป้องกันไม่ให้จิ้งหรีดออกจากบ่อแล้วค่อยใช้ตาข่ายไนล่อนสีเขียวครอบอีกชั้นหนึ่ง ต้องดูแลทุกเช้าและเย็น นำชอล์กกันมดมาขีดรอบบ่อซีเมนต์
สำหรับรายได้จะมีผู้มาซื้อถึงที่บ้านไม่ต้องไปขายไกล ราคากิโลกรัมละ 100 -150 บาท ทำให้ปัจจุบันจิ้งหรีดกลายเป็นสัตว์เศรษฐกิจของเกษตรกรที่หันมาเลี้ยง หลังฤดูกาลเพาะปลูก และในช่วงฤดูแล้งไม่มีน้ำปลูกพืช จึงยึดเป็นอาชีพเสริม สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอีกด้วย
  
      
อุปกรณ์การเพาะเลี้ยง 


จากรูปข้างบนเราตักมาไว้ในกล่องโฟม  (ดังรูปด้านล่างนี้)


2.กล่องฟิวเจอร์บอร์ด 
3.ลังไข่ แบบกระดาษ ยิ่งเยอะยิ่งดี 


4.จานสำหรับให้อาหาร น้ำ ใช้จานหรือวัสดุที่จิ้งหรีดเข้าไปกินได้ 

วงจรชีวิตจิ้งหรีด 

ช่วง ระยะจาก ไข่-ตัวอ่อน 
          ระยะจากไข่ถึงตัวอ่อนใช้ระยะเวลา 7-12 วัน กรณีอุณหภูมิช่วงหน้าร้อน และระยะเวลา 15-25 วันช่วงหน้าหนาวหรืออากาศเย็น 
หลังจากฟักแล้วก็ไปวางไว้ในกล่องที่เตรียมไว้
  การให้อาหารระยะตัวอ่อน
-ช่วงที่เป็นตัวอ่อนให้ใช้อาหารไก่เล็ก บด หรือต่ำให้ละเอียดคลุกกับร่ำอ่อนโรยให้ทั่วกล่อง
การให้อาหารหลังจากจิ้งหรีดเริ่มโตประมาณ 2-3อาทิตย์
-ผัก  ไบไม้ ไบหญ้า  ผักผลไม้ทั่วไป

การให้น้ำ
-ควรใช้ฟองน้ำชุปน้ำให้ชุ่มแล้วน้ำไปวางไว้ในภาชนะที่เตรียมไว้ระวังอย่าให้น้ำเลอะออกมาเพราะตัวอ่อนอาจจมน้ำ

ช่วงระยะโตเต็มวัย  ระยะผสมพันธ์  -วางไข่

จิ้งหรีจะใช้เวลาระยะ 45-50 วันซึ่งพร้อมที่จะวางไข่ ให้ฟังเสียงจิ้งหรีดร้อง ระยะเสียงจิ้งหรีดอาทิตย์แรกเสียงร้องสำหรับหาคู่ หลังจากนั้นเสียงจิ้งหรีดจะร้องถี่ และดัง ให้เอาภาชนะ เพื่อเป็นที่วางไข่  
http://xn--03cnior.blogspot.com/p/blog-page_25.html

การจัดการ
1. สถานที่เลี้ยง ต้องป้องกันแสงแดดและฝนได้ อากาศถ่ายเทได้สะดวก เช่น โรงเรือนเลี้ยง ใต้ถุนบ้าน ชายคา บ้าน เป็นต้น
2. พ่อแม่พันธุ์จิ้งหรีด ได้จากจิ้งหรีดตัวเต็มวัยที่ผสมพันธุ์แล้ว โดยไม่ต้องคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์ ใน บ่อ มี ประมาณ 8,000 ตัว
3. การขยายพันธุ์ วางถาดไข่สำหรับวางไข่ 4-6 อัน ย้ายถาดไข่ออกวางถาดไข่อันใหม่อีก 4-6 อัน จะได้จิ้งหรีด ที่เป็นรุ่นเดียวกัน ใน บ่อ สามารถวางถาดไข่ได้ 2-3ครั้ง
4. การให้น้ำให้ดูขวดที่ใส่น้ำถ้าแห้งให้เติมใหม่ ถ้าสกปรกให้ล้างออก หรือใช้ต้นกล้วยดิบตัดเป็นท่อนๆ แตงกวา ชนิดต่างๆ เช่น แตงกวา แตงโม น้ำเต้า ให้จิ่งหรีดดูดกินน้ำ เมื่อตัวเล็กๆ
5. การให้อาหาร อาหารหลักได้แก่ผักชนิดต่างๆ เช่นผักกาด กะหล่ำ หญ้า มะละกอ อาหารรองใช้อาหารไก่เล็กผสมกับแกลบอ่อน อัตรา 1: 1 เมื่อจิ้งหรีดอายุ 40-50วันพร้อมที่จะนำมาบริโภคและจำหน่ายต่อไป
6. เมื่อจับจิ้งหรีดในบ่อแล้ว ให้ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงโดยการเก็บวัสดุรองพื้นบ่อออกให้หมด ส่วนขวดน้ำ ถาดอาหาร ถาดไข่ ที่หลบภัย ทำความสะอาดสามารถนำมาใช้ได้อีกค่าตอบแทน

โรคและศัพตรูของจิ้งหรีด
จิ้งหรีดเป็นแมลงที่ไม่ค่อยมีโรคและศัตรูรบกวนมากนัก ควรป้องกันไว้ก่อนดีกว่าการกำจัด ซึ่งจะเป็ฯอันตราต่อจิ้งหรีดและผู้บรืโภคโรคทางเดินอาหาร เกิดจากจิ้งหรีดได้รับอาหารที่ไม่สะอาด เกิดเชื้อรา วิธีป้องกัน คือ การให้อาหารที่มีจำนวนพอเหมาะกับจำนวนจิ้งหรีดเมื่อเก็บผลผลิตหมดแล้วควรทำความสะอาดบ่อก่อนนำจิ้งหรีดรุ่นใหม่มาเลี้ยงสัตว์ศัตรู เช่น มด จิ้งจก ไร แมงมุน ป้องกันโดยโช้ตาข่ายคลุมให้มิดชิด

ต้นทุน การเลี้ยง บ่อ ไม่รวมอุปกรณ์การเลี้ยง
ค่าอาหารไก่ กก. ละ 16 บาท รำอ่อน กก. ๆละ บาท รวม 72 บาท
ค่าแรงในการจัดการเลี้ยง 100 บ่อ แต่ละรุ่นใช้เวลาเลี้ยงประมาณ เดือน คิดเฉลี่ยทำงานวันละ ชม. = 7.5 วัน คิดเป็นเงิน 9.75 บาท
ค่าพันธุ์จิ้งหรีด 120 บาท รวมบ่อละ 201.75 บาทรายได้ จิ้งหรีด บ่อ จะได้ประมาณ 2-3 กก. ๆละ 150-200 บาท รวมบ่อละ 300-600 บาทถาดไข่ อันๆละ 60บาท รวม 240 บาทรายได้ บ่อ ประมาณ 338.25-638.25 บาท
                                                                                                      
                                                                                                                                มาจาก : http://cricketgid.blogspot.com/
                                                                                                                                    จาก :  https://www.google.co.th/search? นำใช้ในการเรียนการศึกษา