วันอาทิตย์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์


มหัศจรรย์งานช้างสุรินทร์
ธุรกิจการท่องเที่ยว
             ธุรกิจท่องเที่ยวเป็นธุรกิจหนึ่งที่มีการแข่งขันกันค่อนข้างสูง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือน
ท้องถิ่นของตน ในยุคโลกาภิวัฒน์ที่ข่าวสารไร้พรมแดน การโฆษณาประชาสัมพันธ์เป็นสิ่งจำเป็น
การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว เพื่อเป็นข้อมูลในการจัดรูปแบบการท่องเที่ยวให้สนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และนำมาใช้ในการคำนวณต้นทุน-กำไรในการจัดธุรกิจท่องเที่ยวได้อีกด้วย  

             สิ่งที่ผู้ดำเนินการจัดการท่องเที่ยวจะต้องคำนึงถึงในการแข่งขันในตลาด คือ

1.การส่งเสริมการขาย  หมายถึง การทำให้เกิดการขายให้มากที่สุด การส่งเสริมการขาย อาจทำโดยมีบริการพิเศษเรื่อง  ที่พัก  อาหาร  ของแถม  เพื่อให้นักท่องเที่ยวเกิดความ
ประทับใจ  จูงใจนักท่องเที่ยว  และมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน
2. การบริการ  หมายถึง  การสร้างความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยว  และให้เขากล่าวถึงและชักชวนให้ นักท่องเที่ยวอื่น ๆ มาใช้บริการ  หรือตัวเขาเองกลับมาใช้บริการอีก

3. การพิจารณาราคา  หมายถึง ธุรกิจการท่องเที่ยวเป็นธุรกิจด้านการบริการ  ซึ่งก็ต้องมีการแข่งขันกัน  นักท่องเที่ยวสามารถเปรียบเทียบราคาได้จากการบริการและคุณภาพที่เหมาะสมการกำหนดราคาจึงต้องคำนึงถึงคุณภาพด้านการบริการและคู่แข่งขันด้วย การจัดการขายบริการธุรกิจการท่องเที่ยวกระทำได้หลายวิธีอีกทั้งเป็นเรื่องที่ทั้งท้องถิ่น รัฐบาล หน่วยงานของรัฐ ที่เกี่ยวข้องและเอกชนต้องร่วมมือกัน เพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวได้ข้อมูลการท่องเที่ยวที่ถูกต้องการโฆษณาประชาสัมพันธ์จึงเป็นสิ่งสำคัญในการที่จะสร้างเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้องให้เข้าใจตรงกัน

                การโฆษณา หมายถึง การเผยแพร่สินค้าหรือบริการเพื่อมุ่งส่วนยึดครองทางการตลาด คือ ลูกค้าสนใจและซื้อบริการ

                การประชาสัมพันธ์ หมายถึง การเผยแพร่ข่าวสารให้ประชาชนรับรู้โดยมิได้มุ่งหวังจะจำหน่ายสินค้าหรือบริการ แต่มุ่งจะยึดครองจิตใจ ความนิยมชมชอบจากประชาชนการโฆษณา
ประชาสัมพันธ์เป็นเครื่องมือให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกเดินทางไปพักผ่อนศึกษาหาความรู้ได้ทัน
ตามความพอใจและตามสภาพฐานะที่จะอำนวยของแต่ละบุคคล 
            วัฒนธรรมของไทย  คือ  เป็นธรรมเนียมไทยแท้แต่โบราณ ใครมาถึงเรือนชานต้องต้อนรับ แสดงว่า   คนไทยมีการแสดงออกถึงความเป็นคนเมตตา เป็นมิตร  ให้การต้อนรับด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น สมคำกล่าวที่ว่าสยามเมืองยิ้ม  เช่น  ให้ที่พัก  เลี้ยงข้าวปลาอาหารแสดงการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

                1.  ให้ความช่วยเหลือ  เมื่อประสบอุบัติเหตุ  ประสบภัย  แสดงน้ำใจ  เช่น  ช่วยเหลือเบื้องต้น  แจ้งความกับตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มิใช่ ขโมยของจากผู้บาดเจ็บ เช่น ที่สุพรรณบุรี กรณีเครื่องบินเลาด้าแอร์ตก  หรือ  จี้ปล้นฆ่าข่มขืนนักท่องเที่ยวหลอกลวงให้ซื้อของที่ระลึกที่ไม่มีคุณภาพทำตัวเป็นเจ้าบ้านที่ดี  เลิกปล้น  ฆ่า  จี้  นักท่องเที่ยว

                2.  ช่วยอนุรักษ์มรดกศิลปวัฒนธรรม  การขายแหล่งท่องเที่ยวโดยที่ไม่มีการทนุบำรุง  ไม่นาน ก็กลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม  นักท่องเที่ยวก็ไม่มา  ไปที่อื่น  ต้องทนุบำรุงอนุรักษ์ให้คงอยู่ตราบนานเท่านาน  เช่น  น้ำตกแห่งหนึ่งไม่มีการรณรงค์เรื่องการทิ้งขยะ  ปรากฎว่าขยะจากนักท่องเที่ยว และประชาชนท้องถิ่นทิ้งกันเต็ม  หน่วยราชการไม่มาเก็บขยะ  ทำให้น้ำสกปรก  ต้นไม้ใหญ่ตัดทำเป็นร้านค้า  ร้านอาหารล้ำเข้าไปในแนวเส้นทางน้ำตก  มีการตั้งร้านขายของเต็มข้างทางไม่มีระเบียบ  ร้านขายอาหารขายแพง ไม่อร่อย  สกปรก  สินค้าของที่ระลึกคุณภาพไม่ดี  ห้องน้ำสกปรก  มีการก่อสร้างเช่นทางเดิน  ที่นั่งพัก บดบังธรรมชาติ   ต้นน้ำลำธารมีการตัดไม้ทำลายป่า  ทำให้ในเดือนธันวาคมถึงเมษายน    น้ำตกไม่มีน้ำ   ผลเสียที่ตามมาประชาชนในท้องถิ่นขาดอาชีพเสริม  ขาดรายได้ ธุรกิจท่องเที่ยวล้มเหลว   ปลูกจิตสำนึกในการรักษ์เห็นความสำคัญและหวงแหนทรัพยากรในท้องถิ่นรักษ์ช้าง รักษ์ป่า

ประโยชน์ ข้อดี ข้อเสีย

                    ข้อดี
          การท่องเที่ยวเป็นกิจกรรมพื้นฐานที่มนุษย์ต้องการที่สุด  รัฐบาลทุกประเทศและมนุษย์ทุกคนควร
                การท่องเที่ยวทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม  มีผลให้เกิดความสูญเสียวัฒนธรรมประจำชาติและการรับวัฒนธรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น วัฒนธรรมการแต่งกาย  การกินอยู่  การดำรงชีวิต ฯลฯ

ส่งเสริมสนับสนุน  เป็นการเปิดโลกทัศน์ ที่ทำให้มนุษย์มีทัศนคติกว้างไกล  ผ่อนคลายความเครียด  เกิดความสนุกสนาน  เป็นการพักผ่อน  อีกทั้งยังสร้างความเข้าใจอันดีและสัมพันธภาพระหว่างมนุษยชาติ  มีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างชนในชาติ  และนานาชาติ  ส่งผลให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างกัน


                   ข้อเสีย
นอกจากนี้  วัฒนธรรมและประเพณีบางอย่างที่สูญหายไปอาจได้รับการฟื้นฟูขึ้น  และพัฒนาอย่างฉาบฉวย  เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเป็นสำคัญ  ทำให้ขาดเอกลักษณ์และความสมจริง  กลายเป็นการแสดงหรือสาธิต  ดังคำกล่าวของ เซซิล  ราเชนารา กวีนิพนธ์ชาวมาเลเซีย ว่า
 “ เมื่อนักท่องเที่ยวบินเข้ามา  ผู้ชายของเราก็ทิ้งแหจับปลาไปเป็นพนักงานรับใช้ตามโต๊ะขายอาหาร  และผู้หญิงของเราก็ไปเป็นโสเภณี  เมื่อนักท่องเที่ยวบินเข้ามา  วัฒนธรรมใดที่เรามีอยู่ก็บินออกไปทางหน้าต่าง  เราเอาขนบธรรมเนียมประเพณีของเราไปแลกกับแว่นตากันแดดและน้ำอัดลม  เราแปลงประเพณีอันศักดิ์สิทธิ์ให้กลายเป็นถ้ำมอง ค่าดูสิบเซนต์

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ประวัติอาเซียน




ประวัติความเป็นมาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)

Asean Economic Community-AEC


Asean Economic Community History



              
                AEC เป็นการพัฒนามาจากการเป็น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (The Association of South East Asian Nations : ASEAN) ก่อตั้งขึ้นตามปฏิญญากรุงเทพฯ (Bangkok Declaration) เมื่อ 8 สิงหาคม 2510 โดยมีประเทศผู้ก่อตั้งแรกเริ่ม 5 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย ต่อมาในปี 2527 บรูไน ก็ได้เข้าเป็นสมาชิก ตามด้วย 2538 เวียดนาม ก็เข้าร่วมเป็นสมาชิก ต่อมา 2540 ลาวและพม่า เข้าร่วม และปี 2542 กัมพูชา ก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกลำดับที่ 10 ทำให้ปัจจุบันอาเซียนเป็นกลุ่มเศรษฐกิจภูมิภาคขนาดใหญ่ มีประชากร รวมกันเกือบ 500 ล้านคน
จากนั้นในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่  9 ที่อินโดนีเซีย เมื่อ 7 ต.ค.  2546  ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้ตกลงกันที่จะจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) ซึ่งประกอบด้วย3 เสาหลัก คือ
1.ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economic Community:AEC)
2.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (Socio-Cultural Pillar)
3.ประชาคมความมั่นคงอาเซียน (Political and Security Pillar)
คำขวัญของอาเซียน คือ “ One Vision, One Identity, One Community.” หนึ่งวิสัยทัศน์   หนึ่งอัตลักษณ์   หนึ่งประชาคม
เดิมกำหนดเป้าหมายที่จะตั้งขึ้นในปี 2563 แต่ต่อมาได้ตกลงกันเลื่อนกำหนดให้เร็วขึ้นเป็นปี 2558 และก้าวสำคัญต่อมาคือการจัดทำปฏิญญาอาเซียน (ASEAN Charter) ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2552 นับเป็นการยกระดับความร่วมมือของอาเซียนเข้าสู่มิติใหม่ในการสร้างประชาคม โดยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งทางกฎหมายและมีองค์กรรองรับการดำเนินการเข้าสู่เป้าหมายดังกล่าวภายในปี 2558
ปัจจุบันประเทศสมาชิกอาเซียน รวม 10 ประเทศได้แก่  ไทย พม่า มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชา บรูไน
สำหรับเสาหลักการจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community หรือ AEC )ภายในปี 2558 เพื่อให้อาเซียนมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ อย่างเสรี และเงินทุนที่เสรีขึ้นต่อมาในปี 2550 อาเซียนได้จัดทำพิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) เป็นแผนบูรณาการงานด้านเศรษฐกิจให้เห็นภาพรวมในการมุ่งไปสู่ AEC ซึ่งประกอบด้วยแผนงานเศรษฐกิจในด้าน ต่าง ๆ พร้อมกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนในการดำเนินมาตรการต่าง ๆ จนบรรลุเป้าหมายในปี 2558 รวมทั้งการให้ความยืดหยุ่นตามที่ประเทศสมาชิกได้ตกลงกันล่วงหน้า
ในอนาคต AEC จะเป็นอาเซียน+3 โดยจะเพิ่มประเทศ จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ด้วย และต่อไปก็จะมีการเจรจา อาเซียน+6 จะมีประเทศ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และ อินเดียต่อไป
แหล่งข้อมูล http://www.thai-aec.com

อาเซียน ข้อมูลอาเซียน คำถามเกี่ยวกับอาเซียน ก่อนเข้าสู่ประชาคมอาเซียน


ประเทศอาเซียน

 เราในฐานะประชาชนชาวไทย ก็รับรู้ถึงความร่วมมือร่วมใจที่เตรียมตัวในการพัฒนาประเทศของเราเพื่อจับมือร่วมกับ 10  ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้สมาชิกทั้ง 10 ประเทศสามารถอยู่รวมกันได้อย่างเข็มแข็ง และมีมิตรภาพ พร้อมจูงมือกันก้าวสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน… ในวันนี้กระปุกดอทคอมก็ขอนำข้อมูลเกี่ยวกับอาเซียน และประชาคมอาเซียน มาให้ได้ทราบกันว่า การรวมตัวกันของ 10 ประเทศอาเซียน จะนำพาเราไปสู่การพัฒนาอะไรบ้าง และต้นกำเนิดของอาเซียนมีประวัติความเป็นมาอย่างไร

 ประวัติการก่อตั้งอาเซียน

           อาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association of South East AsianNations หรือ  ASEAN) ก่อตั้งขึ้นโดยปฏิญญากรุงเทพ (Bangkok Declaration) ซึ่งได้มีการลงนามที่วังสราญรมย์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2510 โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสมาชิกก่อตั้ง 5 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ ไทย ซึ่งผู้แทนทั้ง 5 ประเทศ ประกอบด้วย

            - นายอาดัม มาลิก (รัฐมนตรีต่างประเทศอินโดนีเซีย)
           
            - นายตุน อับดุล ราชัก บิน ฮุสเซน (รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหมและรัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาการแห่งชาติมาเลเซีย)

            - นายนาซิโซ รามอส (รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์)
            - นายเอส ราชารัตนัม (รัฐมนตรีต่างประเทศสิงค์โปร์)
            - พันเอก (พิเศษ) ถนัด คอมันตร์ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย)

           ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาได้มีประเทศต่าง ๆ เข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติม ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม (เป็นสมาชิกเมื่อ 8 มกราคม พ .ศ.2527) เวียดนาม (เป็นสมาชิกเมื่อ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2538) ประเทศลาว, ประเทศพม่า (เป็นสมาชิกเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ .2540) และประเทศกัมพูชา (เป็นสมาชิกเมื่อ 30 เมษายน พ.ศ. 2542) ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีสมาชิกอาเซียนทั้งหมด 10 ประเทศ


วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งอาเซียน

          วัตถุประสงค์ของการก่อตั้งอาเซียน คือ เพื่อส่งเสริมความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประเทศในภูมิภาค ธำรงไว้ซึ่ง สันติภาพเสถียรภาพ และความมั่นคงทางการเมือง สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ การพัฒนาทางสังคม และ วัฒนธรรมการกินดีอยู่ดีของประชาชนบนพื้นฐานของความเสมอภาคและผลประโยชน์ร่วมกันของประเทศสมาชิก โดยแบ่งออก เป็นข้อ ๆ ได้ดังนี้

        1. เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม เทคโนโลยี วิทยาศาสตร์ และการบริหาร

        2. เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงส่วนภูมิภาค

        3. เพื่อเสริมสร้างความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและพัฒนาการทางวัฒนธรรมในภูมิภาค

        4. เพื่อเสริมสร้างให้ประชาชนในอาเซียนมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดี

        5. เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในรูปแบบของการฝึกอบรมและการวิจัยและส่งเสริมการศึกษาด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

        6. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการเกษตรและอุตสาหกรรม การขยายการค้า ตลอดจนปรับปรุงการขนส่งและการคมนาคม

        7. เพื่อส่งเสริมความร่วมมืออาเซียนกับประเทศภายนอก องค์การความร่วมมือแห่งภูมิภาคอื่นๆ และองค์การระหว่างประเทศ



สัญลักษณ์ของอาเซียน 

         สัญลักษณ์ของอาเซียนนั้น เป็นสัญลักษณ์ที่ใช้มานานตั้งแต่ก่อตั้ง ประกอบไปด้วยรูปรวงข้างสีเหลืองจำนวน 10 ต้น บน พื้นสีแดงล้อมรอบด้วยวงกลมสีขาวและสีน้ำเงิน โดยมีความหมายว่าดังนี้...

         รวงข้าว 10 ต้น หมายถึง ประเทศสมาชิก 10 ประเทศ

         สีเหลือง  หมายถึง  ความเจริญรุ่งเรือง

         สีแดง  หมายถึง  ความกล้าหาญและการมีพลวัติ

         สีขาว  หมายถึง  ความบริสุทธิ์

         สีน้ำเงิน  หมายถึง  สันติภาพและความมั่นคง
                     
   รู้จัก ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน ทั้งหมดคลิกเลย

กฎบัตรอาเซียน

            กฎบัตรอาเซียน หรือ ASEAN Charter เรียกง่าย ๆ ก็คือ ธรรมนูญของอาเซียนที่จะวางกรอบทางกฎหมาย และโครง สร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของอาเซียนให้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะวัตถุประสงค์ใหญ่ ในปี พ.ศ.2558 ที่ทั้ง 10 ประเทศจะจับมือกันขับเคลื่อนเพื่อเป็นประชาคมอาเซียน

         อย่างไรก็ตาม กฎบัตรอาเซียนดังกล่าว มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2551หลังจากที่ประเทศสมาชิกครบทั้ง 10 ประเทศ ได้ให้สัตยาบันกฎบัตร และการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ระหว่างวันที่ 28 กุมภาพันธ์ - 1 มีนาคม พ.ศ.2552 ที่จังหวัดเพชรบุรีเป็นการประชุมระดับผู้นำอาเซียนครั้งแรกหลังจากกฎบัตรมีผลบังคับใช้

ประชาคมอาเซียน


        ประชาคมอาเซียนประกอบด้วยความร่วมมือ 3 เสาหลัก คือ

         ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political and Security Community–APSC)

         ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community–AEC)

         ประชาคมสังคมและวัฒนธรรม (ASEAN Socio-Cultural Community–ASCC)

 1. ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political and Security Community – APSC)


           มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาค เพื่อให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข และสามารถแก้ไขปัญหาและความขัดแย้ง โดยสันติวิธี อาเซียนจึงได้จัดทำแผนงานการจัดตั้งประชาคมการเมือง และความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political-Security Community Blueprint) โดยเน้นใน 3 ประการ คือ
          1.การมีกฎเกณฑ์และค่านิยมร่วมกัน ครอบคลุมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะร่วมกันทำเพื่อสร้างความเข้าใจในระบบสังคม วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ที่แตกต่างของประเทศสมาชิก ส่งเสริมพัฒนาการทางการเมืองไปในทิศทางเดียวกัน เช่น หลักการ ประชาธิปไตย การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคม การต่อต้านการทุจริต การส่งเสริมหลักนิติธรรมและธรรมาภิบาล เป็นต้น

          2.ส่งเสริมความสงบสุขและรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาความมั่นคงสำหรับประชาชนที่ครอบคลุมในทุกด้านครอบ คลุมความร่วมมือ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในรูปแบบเดิม มาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจและการระงับข้อพิพาท โดยสันติ เพื่อป้องกันสงครามและให้ประเทศสมาชิกอาเซียนอยู่ด้วยกัน โดยสงบสุขและไม่มีความหวาดระแวง และขยายความร่วมมือเพื่อ ต่อต้านภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด การค้ามนุษย์ ตลอดจนการเตรียมความพร้อมเพื่อป้องกันและจัดการภัยพิบัติและภัยธรรมชาติ

          3.การมีพลวัตและปฏิสัมพันธ์กับโลกภายนอก เพื่อเสริมสร้างบทบาทของอาเซียนในความร่วมมือระดับภูมิภาค เช่น  กรอบอาเซียน+3 กับจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) และการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ตลอดจนความสัมพันธ์ที่เข้มแข็งกับมิตรประเทศ และองค์การระหว่างประเทศ เช่น สหประชาชาติ

 2. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Political-Security Community-AEC)

          มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้อาเซียนมีตลาดและฐานการผลิตเดียวกันและมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน  เงินทุน  และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี อาเซียนได้จัดทำแผนงาน การจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community  Blueprint) ซึ่งเป็นแผนงานบูรณาการการดำเนินงานในด้านเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ 4 ด้าน คือ

         1.การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (single market and production base) โดยจะมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน และแรงงานมีฝีมืออย่างเสรี และการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น

         2.การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของอาเซียน โดยให้ความสำคัญกับประเด็นนโยบายที่จะช่วยส่งเสริมการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ เช่น นโยบายการแข่งขัน การคุ้มครองผู้บริโภค สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา นโยบายภาษี และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (การเงิน การขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ และพลังงาน)

         3.การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเสมอภาค ให้มีการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และการเสริมสร้างขีดความสามารถผ่านโครงการต่าง ๆ

         4.การบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก เน้นการปรับประสานนโยบายเศรษฐกิจของอาเซียนกับประเทศภายนอกภูมิภาคเพื่อให้อาเซียนมีท่าทีร่วมกันอย่างชัดเจน

 3. ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community – ASCC) 

          อาเซียนได้ตั้งเป้าเป็นประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ในปี 2558 โดยมุ่งหวังเป็นประชาคมที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง มีสังคมที่เอื้ออาทรและแบ่งปัน ประชากรอาเซียนมีสภาพความเป็นอยู่ที่ดีและมีการพัฒนาในทุกด้านเพื่อยกระดับคุณภาพ ชีวิตของประชาชน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน รวมทั้งส่งเสริมอัตลักษณ์อาเซียน (ASEAN Identity) เพื่อรองรับการเป็นประชาคมสังคม และวัฒนธรรมอาเซียน โดยได้จัดทำแผนงานการจัดตั้งประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community Blueprint)ซึ่งประกอบด้วยความร่วมมือใน 6 ด้าน ได้แก่

      1.การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

      2.การคุ้มครองและสวัสดิการสังคม

      3.สิทธิและความยุติธรรมทางสังคม

      4.ความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

      5.การสร้างอัตลักษณ์อาเซียน

      6.การลดช่องว่างทางการพัฒนา

          ทั้งนี้โดยมีกลไกการดำเนินงาน ได้แก่ การประชุมรายสาขาระดับเจ้าหน้าที่อาวุโส และระดับรัฐมนตรีและคณะมนตรีประชาคม สังคมและวัฒนธรรมอาเซียน


ประเทศสมาชิกอาเซียน (ASEAN Member States)

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

 เนการาบรูไนดารุสซาลาม : Negara Brunei Darussalam
         การปกครอง : สมบูรณาญาสิทธิราชย์

         ประมุข : สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาเลาะห์

         เมืองหลวง : บันดาร์เสรีเบกาวัน

         ภาษาราชการ : ภาษามาเลย์, ภาษาอาหรับ

         หน่วยเงินตรา : บรูไนดอลลาร์

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mofat.gov.bn
ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

 ราชอาณาจักรกัมพูชา : Kingom of Cambodia

         การปกครอง : ระบอบประชาธิปไตย

         ประมุข : พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี

         เมืองหลวง : กรุงพนมเปญ

         ภาษาราชการ : ภาษาเขมร

         หน่วยเงินตรา : เรียล

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mfaic.gov.kh

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

 สาธารณรัฐอินโดนีเซีย : Republic of Indonesia

         การปกครอง : ระบอบสาธารณรัฐแบบประชาธิปไตย

         ประมุข : พลโทซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน

         เมืองหลวง : กรุงจาการ์ตา

         ภาษาราชการ : ภาษาบาร์ฮาซา, ภาษาอินโดนีเซีย

         หน่วยเงินตรา : รูเปียห์

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.kemlu.go.id
 

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน


 สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว : The Loa People's Democratic Republic

         การปกครอง : ระบอบสังคมนิยม

         ประมุข : พลโทจูมมะลี ไซยะสอน

         เมืองหลวง : นครหลวงเวียงจันทน์

         ภาษาราชการ : ภาษาลาว

         หน่วยเงินตรา : กีบ

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mofa.gov.la
 

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

 มาเลเซีย : Malaysia
         การปกครอง : สหพันธรัฐ โดยมีสมเด็จพระราชาธิบดีเป็นประมุข

         ประมุข : สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านตวนกู อับดุล ฮาลิม มูอัซซอม ซาร์

         เมืองหลวง : กรุงกัวลาลัมเปอร์

         ภาษาราชการ : ภาษามาเลย์

         หน่วยเงินตรา : ริงกิต

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.kln.gov.my

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน


 สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ : Republic of the Union of the Myanmar

         การปกครอง : ระบบประธานาธิบดี

         ประมุข : พลเอกเต็ง เส่ง

         เมืองหลวง : นครเนปิดอร์

         ภาษาราชการ : ภาษาพม่า

         หน่วยเงินตรา : จั๊ต

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mofa.gov.mm


ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน


 สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ : Republic of the Philippine

         การปกครอง : สาธารณรัฐเดี่ยวระบบประธานาธิบดี

         ประมุข : เบนิกโน อากีโน ที่ 3

         เมืองหลวง : กรุงมะลิลา

         ภาษาราชการ : ภาษาตากาล๊อก, ภาษาอังกฤษ

        หน่วยเงินตรา : เปโซ

        เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.dfa.gov.ph


ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

สาธารณรัฐสิงคโปร์ : Republic of Singapore

         การปกครอง : ระบบสาธารณรัฐแบบรัฐสภา มีประธานาธิบดีเป็นประมุข

         ประมุข : โทนี ตัน เค็ง ยัม

         เมืองหลวง : สิงคโปร์

         ภาษาราชการ : ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีนกลาง, ภาษามาเลย์, ภาษาทมิฬ

         หน่วยเงินตรา : ดอลล่าร์สิงคโปร์

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mfa.gov.sg

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน

 ราชอาณาจักรไทย : Kingdom of Thailand
         การปกครอง : ระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข

         ประมุข : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

         เมืองหลวง : กรุงเทพมหานคร

         ภาษาราชการ : ภาษาไทย

         หน่วยเงินตรา : บาท

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mfa.go.th

ธงอาเซียน และสัญลักษณ์ของอาเซียน


 สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม : Socialist Republic of Vietnam

         การปกครอง : ระบอบสังคมนิยมเวียดนาม

         ประมุข : เจือง เติ๋น ซาง

         เมืองหลวง : กรุงฮานอย

         ภาษาราชการ : ภาษาเวียดนาม

         หน่วยเงินตรา : ด่อง

         เว็บไซต์กระทรวงการต่างประเทศ : www.mofa.gov.vn

คำขวัญอาเซียน

          The motto of ASEAN is "One Vision, One Identity, One Community."

คำขวัญอาเซียน "หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งอัตลักษณ์ หนึ่งประชาคม"

เพลงประจำอาเซียน

           "The ASEAN Way"


           เป็นผลงานจากประเทศไทยที่ชนะเลิศจากการแข่งขันระดับภูมิภาคอาเซียน ประพันธ์โดย นายกิตติคุณ สดประเสริฐ (ทำนอง และ เรียบเรียง) ได้เริ่มใช้บรรเลงอย่างเป็นทางการครั้งแรกในพิธีเปิดการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 14 ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์  2552 ที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 

กฎบัตรอาเซียน ... ข้อตกลงร่วมกันของประชาคมอาเซียน

ประเทศไทยกับอาเซียน
      
          ตลอดระยะเวลา 45 ปีที่ผ่านมา ที่ประเทศไทยได้เข้าร่วมอาเซียน ทางไทยได้ประโยชน์หลายประการจากอาเซียน ทั้งในแง่การเสริมสร้างความมั่นคงซึ่งช่วยเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องมูลค่าการส่งออกทั้งหมด โดยไทยเป็นฝ่ายได้ ดุลมาตลอด ประกอบกับการขยายความร่วมมือเพื่อเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐาน เช่น เส้นทางคมนาคม ระบบไฟฟ้า โครงข่าย อินเทอร์เน็ต ฯลฯ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าและการลงทุนให้กับไทย นอกจากนี้อาเซียนยังเป็นแหล่งเงินทุนและเป้าหมายการลงทุนของไทย ซึ่งไทยจะได้เปรียบประเทศสมาชิกอื่นเพราะมีที่ตั้งอยู่ใจ กลางอาเซียน สามารถเป็นศูนย์กลางทางการคมนาคมและขนส่งในภูมิภาค
        
          สำหรับในอนาคต คนไทยจะได้รับประโยชน์จากการรวมตัวเป็นประชาคมของอาเซียนมากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับการเตรียม ความพร้อมของรัฐบาล ซึ่งทางรัฐบาลต้องสร้างความตื่นตัวและให้ความรู้กับประชาชน เพื่อให้ตระหนักถึงโอกาสและเสริม สร้างความสามารถในการแข่งขันซึ่งจะช่วยให้คนไทยได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ต้องป้องกันไม่ให้เกิดผล กระทบในทางลบแก่ภาคส่วนต่าง ๆ

แหล่งข้อมูล http://aec.kapook.com/view49579.html